วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

Basilica di San Marco

 Basilica di San Marco



         Venice Italy เวนิสถือเป็นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเมืองหนึ่ง ภาพวิถีชีวิตริมลำคลองที่ไหลผ่านทั้งเมืองของเวนิสนั้นเป็นภาพที่คุ้นตาคนทั่วทั้งโลกมาอย่างยาวนาน ตัวเมืองเวนิสเองนั้นตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอิตาลีบริเวณชายฝั่งทะเลอาเดรียติค มีประชากรประมาณ 70,000 คนอาศัยอยู่ในเมืองที่มีคลองใหญ่ที่ชื่อว่า Canale Grande ไหลผ่านกลางเมืองเป็นรูปตัว S แบ่งเขตปกครองออกเป็น 6 เขต อันได้แก่ Castello, San Marco, Cannaregio, Dorsoduro, San Poloและ Santa Croce บนเกาะกว่า 30 เกาะ ที่เชื่อมต่อกันด้วยการโดยสารทางเรือ หรือไม่ก็สะพานที่มีกว่า 400 แห่ง
         เวนิสเป็นเมืองที่อุดมไปด้วยสถานที่เที่ยวมากมาย ไล่มาตั้งแต่สถานีรถไฟ ที่เที่ยวด้านประวัติศาสตร์ ศิลปะ หรือแม้กระทั่งมุมสงบชายฝั่งทะเล เรื่องของที่ระลึก ร้านค้าต่างๆ ก็มีมากมายจนแทบนับไม่ถ้วน แถมยังร่ำรวยไปด้วยพิพิธภัณฑ์ศิลปะหลายต่อหลายแห่ง รวมถึงลานกว้างต่างๆ ที่มีร้านอาหารน่านั่งทานอาหารแกล้มวิวทิวทัศน์ให้สบายอารมณ์


         มหาวิหารที่ตั้งอยู่ภายในจัตุรัส San Marco มีจุดเด่นที่โดมซึ่งมีถึง 5 ยอด แต่เดิมใช้เป็นที่ประกอบพิธีส่วนตัวของ Doge ผู้ปกครองเวนิส ตกแต่งด้วยศิลปะหลากหลายแบบตั้งแต่ยุคโรมาเนสก์จนถึงเรอเนสซองส์ เนื่องจากโดนทำลายและมีการสร้างใหมขึ่้นมาถึง 2 ครั้ง ทุกครั้งที่มีการสร้างใหม่ ผู้สร้างก็จะเอาศิลปะของยุคที่มีการบูรณะผสมเข้าไปด้วย แต่โดยหลักๆ แล้วจะได้รับอิทธิพลจากแนวอาหรับมาเป็นส่วนใหญ่ สังเกตได้จากยอดโดมที่ออกแนวอาหรับไบเซนไทน์
        บริเวณภายในโดมก็ประดับประดาด้วยสีทองสวยงามตั้งแต่พื้นถึงเพดานโดม ภายในมีการจัดแสดงภาพทางศาสนาไว้หลากหลาย ที่โดดเด่นเป็นพิเศษได้แก่ ภาพพระเยซูและเหล่าสาวก โดยมีการประดับด้วยทองคำและอัญมณีมีค่าหลายร้อยเม็ด หรือหากอยากชมสมบัติอื่นๆ ให้เข้าไปที่ห้อง Tesoro ที่เก็บสมบัติต่างๆ ของโบสถ์เอาไว้ ทั้งฉากทองคำประดับด้วยอัญมณี รูปปั้นหินอ่อน ถ้วยคริสตัล และเครื่องทองต่างๆ อีกมากมาย โดยส่วนใหญ่จัดแสดงของที่ยึดมาจากกรุงคอนสแตนติโนเปิล (ปัจจุบันคืออิสตันบูล เมืองใหญ่ที่สุดของตุรกี)

Neuschwanstein Castle

Neuschwanstein Castle


         Füssen เป็นเมืองเล็กๆ ทางตอนใต้ของเยอรมัน เมืองเก่าที่มีอายุกว่า 700 ปีนี้ อยู่ห่างจากมิวนิค ลงมาทางใต้ ติดกับชายแดนออสเตรีย สามารถมาถึงได้โดยง่ายดายด้วยทางรถไฟ รอบๆ เมือง Füssen มีภูเขาในเทือกเขาแอลป์ที่สูงกว่า 800-1,200 เมตร ทำให้บริเวณนี้เป็นเขตที่มีระดับสูงจากน้ำทะเลมากที่สุดในแคว้นบาวาเรีย และนอกจากนี้ยังมีทะเลสาบมากมายล้อมรอบ ทำให้นอกจากปราสาทแล้ว ธรรมชาติของเมืองและบริเวณโดยรอบก็น่าสนใจไม่น้อย ถ้าได้มีเวลาค้างที่นี่สัก 1-2 คืนน่าจะได้บรรยากาศมากกว่ามาเช้าเย็นกลับ เพื่อชมปราสาทเท่านั้น เพราะนอกจากปราสาทที่โด่งดังแล้ว ใกล้ๆ กันยังมีเส้นทาง Trekking ที่น่าสนใจ มีทะเลสาบสวยๆ ทั้งยังมีป่าใบไม้แดงให้เดินชมในช่วงใบไม้ร่วงเรียกได้ว่ามีอะไรให้ทำได้เยอะมากกว่าที่คิดแน่นอน


        ปราสาทนอยชวานชไตน์ (Schloss Neuschwanstein) เป็นปราสาทที่ตั้งอยู่ในเทือก เขาแอลป์ แถบแคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าลุดวิกที่ 2 แห่งบาวาเรีย ในช่วง ค.ศ. 1845-1886 ชื่อเดิมคือ New Hohenschwangau ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในปราสาทที่มีความสวยงามมากที่สุดในโลก ในแต่ละปีมีผู้คนเข้ามาเยี่ยมชมถึงกว่า 1.3 ล้านคน โดยมากถึงวันละ 6,000 คน ในช่วงฤดูร้อน และยังเป็นปราสาทที่เป็นแรงบันดาลใจให้ดิสนี่ย์เอาไปใช้เป็นต้นแบบในการสร้างปราสาทในดิสนี่ย์แลนด์อีกด้วย เนื่องจากตัวปราสาทมีความโดดเด่นในด้านสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก อีกทั้งที่ตั้งของปราสาทอยู่บนหินผาขนาดใหญ่ที่สูงกว่า 200 เมตร เหนือแม่น้ำพอลลัท (Pollat) ทั้งยังล้อมรอบไปด้วยแมกไม้นานาพรรณ ทำให้ฤดูต่างๆมี ทิวทัศน์ที่แตกต่างกันออกไป



ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปสวยๆจาก (Cr.) http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice , http://en.wikipedia.org/wiki/Neuschwanstein_Castle และ http://imgur.com/gallery/OSZagIg


Salzburg Dom (Salzburg’s Cathedral)

Salzburg Dom (Salzburg’s Cathedral)


       Salzburg’s Cathedral นับเป็นโบสถ์ที่สำคัญที่สุดของเมืองนี้ จุดเด่นอยู่ที่หน้าตาของสถาปัตยกรรมและตัวโดมคู่ที่โดดเด่นในสไตล์บาโรค ครั้งหนึ่งตัวโบสถ์เคยโดนไฟไหม้ไปแล้ว หลังจากนั้นจึงได้มีการบูรณะใหม่จนเป็นแบบปัจจุบัน เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงพลังและอำนาจของ Archbishop ใน Salzburg โบสถ์แรกถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 774 โดย BishopVirgil ก่อนที่จะโดนไฟไหม้ไปในปีค.ศ.  1167 และถูกบูรณะขึ้นมาใหม่ในอีก 10 ปีต่อมาอย่างสวยและสง่างามยิ่งกว่าเดิม หลังจากนั้นโบถส์ได้รับความเสียหายเกิดขึ้นอีกหลายครั้งทั้งจากไฟไหม้และสงครามต่างๆ แต่ก็ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ทุกครั้งจนเป็นแบบปัจจุบัน




ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปสวยๆ จาก (Cr.) http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice , http://mozartchoralfestival.org/dom/ และ http://www.domquartier.at/en/the-domquartier/about-the-domquartier/


Hohensalzburg Fortress

 Hohensalzburg Fortress



     เมือง Salzburg ที่ประเทศออสเตรีย โด่งดังขึ้นมามากในฐานะเป็นเมืองที่เป็น โลเคชั่นของหนังดังอย่าง The Sound of Music และยังถือเป็นเมืองต้นแบบของเมืองใน Disneyland ด้วย เนื่องจากสถาปัตยกรรมที่ดูสวยสะอาดตา เน้นสีขาว ส่วน Old town ของ Salzburg ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโก้ในปี 1997 ยิ่งตอกย้ำความสวยงามของเมืองๆ นี้
    Hohensalzburg Fortress สร้างขึ้นในปีค.ศ 1077  โดย Archbishop นามว่า Gebhard ต่อมาได้มีการขยับขยายโดย Archbishop นาม Leonhard von Keutschach เพื่อใช้เป็นที่หลบภัยของเหล่าพระในศาสนาจากการก่อความไม่สงบ นับเป็นป้อมปราการที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปกลางตัวป้อมปราการนั้นตั้งสง่าโดดเด่นอยู่กลางเมือง เรียกได้ว่ามองเห็นได้จากทั่วทุกทิศในเมืองเลยทีเดียว การขึ้นไปชมตัวปราสาทนั้นสามารถเดินขึ้นไปชม หรือจะขึ้น cable car ไปก็ได้ โดยบริเวณด้านบนป้อมปืนเป็นพิพิธภัณฑ์ทางหาร และมีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย






The Catholic Parish Church

The Catholic Parish Church


     The Catholic Parish Church ใน Hallstatt เปรียบเสมือนเพชรเม็ดงามของเมืองมรดกโลกแห่งนี้ทีเดียว โบสถ์โรมันเล็กๆแห่งนี้สร้างขึ้นในปี 1181 มีจุดเด่น คือหอสูง ซึ่งนับว่ามีความสูงมากทีเดียวในยุคนั้น ตัวโบสถ์นั้นเริ่มสร้างขึ้นในยุคปลายโกธิค ก่อนจะแล้วเสร็จในปี 1505
     ต่อมาตัวโบสถ์ได้กลายเป็นศูนย์กลางของการต่อสู้ทางศาสนาในยุคหนึ่ง และไม่นานหลังจากนั้นโบสถ์ก็ได้กลายมาเป็นศูนย์กลางของเมืองที่ตั้งอยู่ใจกลางจัตุรัสมีการบูรณะโบสถ์แห่งนี้ในปี 1939 แต่กว่าจะแล้วเสร็จสมบูรณ์อย่างที่เห็นทุกวันนี้ก็ล่วงมาจนปี 2002 นี่เอง



Hallstatt Market Square

Hallstatt Market Square



        เมือง Hallstatt เป็นเมืองเล็กๆ ในภาค Salz-kammergut ทางออสเตรียเหนือ ตัวหมู่บ้านตั้งอยู่ใกล้ๆ Hallstätter See (ทะเลสาบ) มีประชากรเพียงประมาณ 1,000 คน เมืองนี้เคยมีชื่อเสียงมากในการผลิตเกลือ ซึ่งปัจจุบันเหมืองเกลือก็เป็นจุดขายหนึ่งของที่นี่และในปี 1997 ก็ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก้ เป็นเมืองที่น่าอยู่เงียบสงบ มีภูเขาสวยงามล้อมรอบ ทะเลสาบหน้าหมู่บ้านที่ใสราวกระจก อากาศที่ดีเย็นสดชื่น และผู้คนที่เป็นมิตรอัธยาศัยดี จนมีนักท่องเที่ยวติดใจมาเยือนไม่ขาดสาย

       Market Square หรือ Marktplatz เป็นหนึ่งในสถานที่ที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน Hallstatt ทุกๆ ปีจะมีผู้เยี่ยมชมมาจากทั่วทุกมุมโลกมาพบกันที่จัตุรัสประวัติศาสตร์แห่งนี้  ตัวจัตุรัสนี้ตั้งอยู่ท่ามกลางหมู่บ้านที่ประกอบไปด้วยบ้านหลังเล็กๆ น่ารักที่หน้าตาเหมือนถอดมาจากเทพนิยาย บ้างก็เปิดเป็นร้านค้าขายของที่ระลึกแสนน่ารัก บ้างก็ทำเป็นร้านกาแฟที่ดูชิลล์ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก และที่พลาดไม่ได้คือร้านอาหารและบาร์ที่เรียงรายอยู่ทั่วตัวจัตุรัส หรือจะหาที่พักจากบริเวณนี้ก็มีให้เหมือนกัน

      หากมาได้ถูกช่วงจังหวะเวลา ทุกๆ ปีที่ Market Square จะมีการจัดงานต่างๆ ขึ้นตลอด เช่น ในฤดูใบไม้ผลิจะมีการจัดขายของในจัตุรัส และถ้าอากาศดี อาจมีร้านค้ายาวไปถึงทะเลสาบทีเดียว ส่วนในฤดูร้อน มีวงดนตรีมากมายที่เลือกมาจัดคอนเสิร์ตที่นี่ หรืองานทางวัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงงานวันเด็กที่ใหญ่ที่สุดใน Hallstatt จะจัดขึ้นในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม ในช่วงฤดูหนาว บรรยากาศจะเปลี่ยนไปเป็นแบบโรแมนติกขึ้นมาทันทีเพราะจะเริ่มมีตลาดคริสต์มาส ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ซึ่งจะเห็นผู้คนมากมายที่ต้องการมาสัมผัสบรรยากาศก่อนวันคริสต์มาสที่นี่



ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปสวยๆจาก (Cr.)  http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice , http://www.hallstatt.net/about-hallstatt/sehenswertes-en-US/market-square/ และ 


The castle complex เมือง เชสกี้ครุมลอฟ (Český Krumlov)

The castle complex เมือง เชสกี้ครุมลอฟ (Český Krumlov)




     เมืองเชสกี้ครุมลอฟ (Český Krumlov) เมืองเล็กๆ ในภูมิภาคโบฮิเมียที่อยู่ชายแดนเชก-ออสเตรีย ห่างจากปรากลงมาทางใต้ประมาณ 180 กม. มีประชากรประมาณ 14,000 คน ได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมและธรรมชาติขององค์การยูเนสโกในปี 1992 เมืองเล็กน่ารักเมืองที่เปี่ยมไปด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปะแบบยุคกลางดั้งเดิมอย่างครบถ้วน ทั้งยังรายล้อมด้วยธรรมชาติอันสวยงาม จนได้รับฉายาว่า Pearl of Renaissance

     Český Krumlov Castle เป็นปราสาทยุคเรอเนสซองซ์ที่ตัวปราสาทได้ถูกสร้างขึ้นราวๆ ศตวรรษที่ 13 โดยมีองค์ประกอบในสไตล์โกธิก (Gothic) เรอเนสซองซ์ (Renessence) และบารอก (Baroque) จุดเด่นที่สุดใน The castle complex คือ หอคอยทรงกลม (RoundTower) ที่สามารถมองเห็นได้จากทุกที่ในเมือง


ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปสวยๆ จาก (Cr.)  http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice , http://www.czechtourism.com/t/cesky-krumlov-unesco/ และ http://pribehy.czechtourism.com/cs/story/cesky-krumlov/pohadka-bez-konce.aspx

สะพานชาร์ลส Charles bridge (Karlův most)

สะพานชาร์ลส Charles bridge (Karlův most)



      Charles Bridge ที่สร้างในปี 1357 จากนั้นได้มีการตกแต่งด้วยรูปปั้นต่างๆกว่า 30 ชิ้นใน คริสต์ศตวรรษที่ 18 และเป็นสะพานแห่งเดียวของเมืองจนถึงปี 1841 ต้นสะพานเราจะพบกับ MaláStrana Bridge Tower ที่สามารถขึ้นไปเพื่อชมวิวสะพานจากมุมสูงได้ ระหว่างทางนอกจากมีของขายแล้ว ยังมีนักดนตรีเปิดหมวกสลับกันขับกล่อม ท่ามกลางวิวที่สวยงาม และบรรยากาศ แห่งเมืองศิลปะ กวี และดนตรี





ขอขอบคุณข้อมูลดีๆและรูปสวยๆจาก (CR.) http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice , http://onebigphoto.com/charles-bridge-dusk-prague/ และ http://draganpaunovic.deviantart.com/art/Charles-bridge-Prague-185712504

จัตุรัสเมืองเก่าของปราก Staré Mesto (Old town)

จัตุรัสเมืองเก่าของปราก Staré Mesto (Old town)





        Staroměstské náměstí จัตุรัสเมืองเก่าของปราก เดิมจัตุรัสนี้เป็นศูนย์กลางการค้าและราชการของกรุงปรากมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้ทุกอาคารที่อยู่รอบๆ ล้วนเป็นอาคารเก่าแก่ที่มีความสวยงามคลาสสิคทั้งสิ้นอาคารที่สำคัญรอบๆ จัตุรัสนี้ก็ได้แก่ Church of Our Lady before Týn หรือเรียกย่อๆ ว่า Tyn Church (Týnský Chrám) โบสถ์หอคอยคู่ยอดแหลมที่เด่นเป็นสง่ากลางจัตุรัส ด้วยความสูงกว่า 80 เมตรก่อสร้างด้วยศิลปะแบบ Gothic Church (แต่ตกแต่งภายในด้วยศิลปะแบบ Baroque interior) Tyn Church ก่อสร้างขึ้นในปี 1385

Old Town Hall Tower ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่กลางลานตั้งแต่ปี 1338 ตัวหอคอยนี้เราสามารถซื้อบัตรเพื่อขึ้นไปชมชั้นบนสุดของหอคอยได้ด้วย ที่เราสามารถเดินหรือขึ้นลิฟท์ไปชั้นบนสุดเพื่อชมวิวสุดอลังการของปรากที่สวยงาม

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ (CR.) http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice และ http://www.planetware.com/prague/old-town-cz-pr-pot.htm

ปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle /Pražský Hrad)

 ปราสาทแห่งกรุงปราก (Prague Castle /Pražský Hrad) 




        ปราสาทสวยงามราวกับเทพนิยายหลังใหญ่แห่งนี้ ตั้งอยู่ใน Castle District (Hradčany)  เหนือขึ้นมาจาก Lesser Town (Malá Strana) โดยตัวปราสาทตั้งอยู่บนเขา ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวห้ามพลาดหากได้มาที่กรุงปราก ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 880 ครอบคลุมพื้นที่ถึง 70,000 ตารางเมตร และยังคงใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ โดย Prague Castle ประกอบไปด้วยคอร์ท 3 แห่ง และสิ่งก่อสร้างอื่นๆ อีกมากมาย เช่น Saint Vitus Cathedral churches, palaces, viewing towers, museums, art galleries, cafés, the monastery หรือ Golden Lane เป็นต้น



ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก (CR.) http://www.dplusguide.com/2014/europe_romantice และ Why NOT to visit Prague Castie